แชร์

ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษ (England Education System)

อัพเดทล่าสุด: 25 พ.ย. 2024
65 ผู้เข้าชม

ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษ
(England Education System)

ระบบการศึกษาในเครือจักรภพอังกฤษ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา และระดับปริญญา การศึกษาภาคบังคับเริ่มตั้งแต่อายุ 5 ปีถึง 16 ปี เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ จะเรียนในโรงเรียนรัฐบาล สำหรับนักเรียนไทย
ที่จะไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ นักเรียนจะมีสิทธิเลือกเข้าเรียนในโรงเรียนของเอกชนเท่านั้น

ปีการศึกษา

  • ภาคต้น (Autumn Term) เริ่มปลายเดือนกันยายน ถึงกลางเดือนธันวาคม
  • ภาคกลาง (Spring Term) เริ่มกลางเดือนมกราคม ถึงปลายเดือนมีนาคม
  • ภาคปลาย (Summer Term) เริ่มปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนกรกฎาคม

เทอมแรกที่เปิดเรียนคือเดือนกันยายนของทุกปี 

ระดับประถมศึกษา ( Preparatory School )

ระดับเตรียมประถมศึกษา
(Pre - Preparatory School)
รับนักเรียนอายุตั้งแต่ 5 -7 ปี

ระดับประถมศึกษา
(Preparatory School)

รับนักเรียนอายุตั้งแต่ 7 -13 ปี

 

โดยการเรียนการสอนจะเน้นให้เด็ก มีทักษะในการเขียนและทักษะด้านตัวเลข เพื่อพัฒนาเด็กให้มีความรู้ความสามารถตามวัย

ระดับมัธยมศึกษา  (Middle School / High School)

รับนักเรียนอายุ 13 ปีขึ้นไป และเรียน ได้จนถึงอายุ 18 - 19 ปี รวมระยะเวลาศึกษา 5 ปี เรียกว่า year 9 - year 13 หรือ Form 3 - Form 6 (สำหรับโรงเรียนที่เรียกระดับชั้นเป็น Form) แต่สำหรับนักเรียนชาวต่างชาติจะมีสิทธิ์เรียนต่อที่ (Independent School) โรงเรียนมัธยมของเอกชนเท่านั้น นักเรียนทุกคนจะต้องทำการสอบวัดผลความรู้ และความสามารถเพื่อจะนำไปใช้ในการ สมัครเข้าในระดับอุดมศึกษาต่อไป โดยจะต้องผ่านการสอบที่เรียกว่า GCSE

GCSE (General Certificate of Secondary Education)

การสอบระดับนี้ จะสอบเมื่อเด็กมีอายุประมาณ 16 ปีขึ้นไป นักเรียนเลือกสอบประมาณ
6-10 วิชา เช่น วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาต่างประเทศ ศิลป ฯลฯ และผลการสอบจะแบ่งเป็น 7 ระดับ คือ Grade A, B, C, D, E, F, G ผู้ที่สอบได้ Grade C ขึ้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่าน นักเรียนที่สอบ GCSE ได้แล้ว (อย่างน้อย 5 วิชา)
หากจะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาจะต้องศึกษาต่ออีกประมาณ 2 ปี ในระดับ A Level (Advanced Level)  หรือ
ระดับ The International Baccalaureate (IB) Diploma 

GCE A-Level (GCE Advanced)  

ที่รู้จักกันในนาม Sixth Form Colleges  โดยใช้ระยะเวลา 2ปี และมีการสอบปลายปีในแต่ละปีการศึกษา A-Level  เป็นการสอบเพื่อวัดความสามารถทางวิชาการของเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป มีวิชาให้เลือก 50 กว่าวิชา ส่วนใหญ่นักศึกษาในระดับ A Level
จะลงเรียนเพียง 2-4 วิชา เพื่อที่จะได้ศึกษาแต่ละวิชาอย่างลึกซึ้ง วิชาที่นักศึกษาเลือกเรียนมักจะเกี่ยวข้องกับหลักสูตรหรือสาขาที่ต้องการ ศึกษาต่อ ในระดับปริญญาตรี 

ผลการสอบ A Level
มี 5 ระดับ คือ A, B, C, D, E แต่ Grade ที่ได้ทั้ง 5 ถือว่าสอบผ่านทั้งหมด
มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่พิจารณารับผู้มีผลการสอบในระดับ C ขึ้นไป บางแห่งอาจรับเฉพาะผู้ที่ได้คะแนนระดับ A และ B

IB  The International Baccalaureate (IB) Diploma 
IB ประกาศนียบัติทางด้านวิชาการระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอายุระหว่าง 16 ถึง 19 ปี ให้มีความพร้อมในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในทุกประเทศ หลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรเข้มข้นโดยใช้เวลาเรียน 2 ปี หลักสูตรของ International Baccalaureate จะประกอบไปด้วยหกวิชาหลักๆ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาที่สอง (อาจจะเลือกเป็นภาษาของตนเองก็ได้) วิทยาศาสตร์เชิงการทดลอง ศิลปะ เลข และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้นักเรียนจะต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชน กิจกรรมกีฬา และงานสร้างสรรค์ทางศิลปะอีกด้วย แก่นของหลักสูตรนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3องค์ประกอบใหญ่ๆ ได้แก่

· การเขียนเรียงความอย่างมีประสิทธิภาพ 
  จะมีการสอนเขียนเรียงความมากถึง 4,000คำต่อหนึ่งเรื่อง ในหัวข้อที่นักเรียนสนใจ

· ทฤษฎีการเรียนรู้
  EF ได้บรรจุและประยุกต์ใช้ปรัชญาความเข้าใจและธรรมชาติการเรียนรู้ของนักเรียน
  เข้าไปในหลักสูตรและบทเรียนด้วย

· ความคิดสร้างสรรค์ การลงมือทำ และการให้บริการ
   ได้ถูกบรรจุอยู่ในชั้นเรียนต่างๆในหลักสูตร อาทิเช่น ศิลปะ กีฬา และอาสาพัฒนาชุมชน

นักเรียนจะเลือกเรียนหนึ่งวิชาจากแต่ละกลุ่มวิชา รวมเป็น 6 วิชา โดยปกติ 3 วิชาจะอยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่าอีก 3 วิชาซึ่งจะเรียนในระดับมาตรฐาน หลักการเรียนรู้ทั้ง 3 ส่วนเป็นภาคบังคับของหลักสูตร และเป็นหลักปรัชญาของหลักสูตรนี้

BTEC HNC/HND หรือ Diploma of Higher Education (Dip. HE)
เป็นหลักสูตร 2 ปี ส่วนใหญ่จะเปิดสอนอยู่ใน College of Higher Education โดยมหาวิทยาลัยบางแห่ง รับเปิดรับผู้สอบ "A" Level อย่างน้อย 1 วิชา หรือสำเร็จการศึกษาระดับ National Diploma การสมัครเข้าศึกษาต่อนั้นต้องสมัครผ่าน UCAS เช่นเดียวกับในระดับปริญญาตรี 

และยังมีหลักสูตรที่ใช้เวลาเรียนน้อยกว่าหลักสูตรอื่นๆ ได้แก่

  • Foundation Degree
  • Diploma of Higher Education
  • Higher National Diploma
  • Certificate of Higher Education

ระดับอาชีวศึกษา (Further Education)
เป็นการศึกษาที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป หลังจบมัธยมศึกษาที่ไม่ใช่ระดับปริญญาตรี หรือสูงกว่าปริญญาตรี จะเป็นการศึกษาและฝึกอบรมด้านเทคนิค และวิชาชีพการฝึกงาน และฝึกอบรมระดับเริ่มต้น ซึ่งไม่ประสงค์จะศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา หรือผู้ที่ไม่มีคุณวุฒิ GCSE แต่ประสงค์จะมีคุณวุฒิทางวิชาชีพต่างๆ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ คุณวุฒิวิชาชีพ 


Higher National Certificate/Diploma (HNC/HND)
เป็นการศึกษาในระดับสูงสุดของระดับอาชีวศึกษา หลักสูตร 2 ปี ซึ่งถือว่าระดับนี้เป็นการศึกษาในระดับอุดมศึกษา (Higher Education) ด้วยเช่นกัน ผู้ที่จบหลักสูตรนี้ถือว่า ได้มีคุณวุฒิสูงกว่าอนุปริญญาของไทย แต่ต่ำกว่าปริญญาตรี 1 ชั้น นอกจากนี้หากประสงค์จะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีก็สามารถทำได้โดยใช้เวลา ศึกษาอีก 2 ปี แต่ทั้งนี้ผลการเรียนต้องอยู่ในระดับดี

National Vocational Qualification (NVQ)
หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรสายอาชีพ เป็นการเรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติร่วมกัน แต่จะเน้นภาคปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนได้รับการฝึกฝนและมีความพร้อมก่อนที่จะ ออกไปประกอบอาชีพจริง

สถาบันอาชีวศึกษาของเอกชน
ควรเลือกสถานศึกษาเอกชนที่ได้รับการรับรองวิทยฐานะจาก The British Accredition council for Further and Higher Education (BAC) ซึ่งเป็นหลักประกันว่าเป็นสถาบันที่มีการเรียนการสอนที่เชื่อถือได้ สำหรับวุฒิการศึกษาที่ได้รับ จะได้เพียงประกาศนียบัตรเท่านั้นและยังมีหลักสูตร Foundation degrees เป็นหลักสูตรการศึกษาที่จัดขึ้นเพื่อเตรียมความรู้ในการเรียนต่อระดับปริญญาตรี หลักสูตรนี้จะใช้เวลาเรียน 1 ปี 

ระดับอุดมศึกษา (Higher Education)
สำหรับหลักสูตรระดับปริญาขึ้นไปของสหราชอาณาจักร โดยหลักสูตรส่วนใหญ่ได้ออกแบบให้มีความยืดหยุ่น และหลายมหาวิทยาลัยได้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เลือกเรียนจากรายวิชาที่หลากหลายมากขึ้น หลักสูตรปริญญาตรีแบบเรียนเต็มเวลาส่วนใหญ่จะใช้เวลา 3 ปี หรือบางคณะอาจจะใช้เวลา 4 ปี สำหรับหลักสูตรปริญญาโทใช้เวลาเรียนแบเต็มเวลา 1 (เข้าห้องเรียน) หรือ 2 ปี (แบบทำวิจัย) และหลักสูตรการศึกษาสูงสุดคือระดับปริญญาเอก (PhD/Dphil) โดยเป็นการเรียนที่นำไปสู่อาชีพด้านวิชาการ (ในฐานะอาจารย์หรือนักวิจัย)  

การศึกษาระดับปริญญาตรี (Undergraduate)

· First Degree (Bachelor Degree)
เป็นหลักสูตรปริญญาตรีการศึกษา 3 ปี ยกเว้นบางสาขาวิชา เช่น วิศวกรรมศาสตร์ (4 ปี), สถาปัตยกรรมศาสตร์ (5 ปี), ทันตแพทย์ (5 ปี), สัตวแพทย์ (5 ปี), แพทย์ (6 ปี) 

· Post - Graduate (Certificate Diploma)
หลักสูตรการศึกษาต่อในหลักสูตรปริญญาตรี สำหรับผู้ที่จบปริญญาตรี ระยะเวลา 9 เดือนถึง 1 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีเข้าศึกษาต่อเท่านั้น

· Master Degree
หลักสูตรการศึกษาในหลักสูตรปริญญาโท 1-2 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีผลการเรียนดี 

· Doctoral Degree (Ph. D.)
หลักสูตรการศึกษาในหลักสูตรปริญญาเอก เน้นการทำวิจัย (research degree) ใช้ระยะเวลาในการศึกษาเต็มเวลาประมาณ 3 ปี และแบบนอกเวลาประมาณ 6 ปี มหาวิทยาลัยถ้าต้องการเรียน PhD ผู้สมัครอาจเริ่มจากการเรียน MPhil  ซึ่งส่วนใหญ่จะรับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร MPhill หรือ Master by Research (MPhill) จากปริญญาโท

นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรที่ออกแบบมาสำหรับนักเรียนต่างชาติ
คือหลักสูตรปูพื้นฐานเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษที่จะช่วยเพิ่มทักษะและความมั่นใจในการเริ่มต้นการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่าปริญญาตรี เพื่อให้นักเรียนสามารถปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมของชาวอังกฤษและในระดับมหาวิทยาลัยได้ 


สนใจเรียนต่อประเทศอังกฤษติดต่อสอบถามได้ที่ VisionUK
website www.visionuk.net 


บทความที่เกี่ยวข้อง
E-Visa 2025 ระบบการเก็บข้อมูลรูปแบบใหม่ที่นักเรียนต่างชาติควรรู้ไว้ !
E-Visa 2025 ระบบการเก็บข้อมูลรูปแบบใหม่ที่นักเรียนต่างชาติควรรู้ไว้ ! เมื่อต้องเดินทางไปศึกษาต่อประเทศอังกฤษระยะยาว
25 พ.ย. 2024
Top 5 สถานที่เรียนและเที่ยวในประเทศอังกฤษ 2568
Top 5 สถานที่เรียนและเที่ยวในประเทศอังกฤษ 2568
19 พ.ย. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ